CRYSTAL GLASS COATING
“แบรนด์อันดับ 1 ที่คนในวงการบันเทิงให้การยอมรับมากที่สุด!”
ตลอดระยะเวลาผ่านมา CGC ได้ฝากผลงานเคลือบคริสตัลไว้กับรถยนต์บนท้องถนนมากกว่า 10,000 คัน และรถยนต์ของคนวงการบันเทิงอีกจำนวนมาก จึงเป็นหลักประกันได้ว่า ผลิตภัณฑ์และศูนย์บริการ CGC มีคุณภาพ น่าเชื่อถือ เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง และสามารถบอกต่อได้จากผู้ใช้งานจริง
คุณสมบัติน้ำยาเคลือบแก้ว CGC
CGC - Crystal Glass Coating เป็นสารเคลือบสีผิวรถยนต์ประสิทธิภาพสูง ผลิตด้วย NaNo Technology จากญี่ปุ่น มีการยึดเกาะของโมเลกุลเป็นรูปแบบห่วงโซ่ SiO2
แต่ขณะเดียวกันก็มีการยืดหยุ่นที่ดีเมื่อยึดเกาะกับสีผิวรถยนต์ จึงไม่ก่อให้เกิดการแตกร้าวลอกร่อน
พื้นผิวที่เคลือบด้วย CGC - Crystal Glass Coating สามารถก่อให้เกิดความแข็งสูงสุดที่ระดับ9H (Corundum) เมื่อเทียบตามตารางธาตุ หรือ Mohs Scale
จึงลดการเกิดริ้วรอยได้ดีกว่าน้ำยาเคลือบสีแบบทั่วๆไป และริ้วรอย ที่เกิดขึ้นจะเกิดขึ้นบนชั้นของ Crystal สามารถขัดออกได้ง่าย
เมื่อยึดเกาะกับผิวรถแล้ว จะมีความหนาปกคลุม ประมาณ 4-10 ไมครอน และสามารถสร้าง ความหนาสูงสุดได้ถึง 30 ไมครอน (ขึ้นอยู่กับ กระบวนการในการปฏิบัติ)
และเมื่อมีตกผลึกจะมีความใสของ Crystal มากกว่าผลิตภัณฑ์อื่น ในปัจจุบันทำให้สีรถของท่านมีความเงางามเพิ่มขึ้น
CGC - Crystal Glass Coating มีคุณสมบัติป้องกัน รังสียูวีและอินฟาเรตได้ถึง 99% สีรถจึงไม่ซีดจาง และไม่หลุดสลายไปจากการล้างรถ
จึงสามารถล้างหรือเคลือบทับด้วยน้ำยาประเภท Wax หรือ Sealant ได้ตามปกติ
พื้นผิวที่ผ่านการเคลือบด้วย CGC - Crystal Glass Coating แล้ว จะมีคุณสมบัติ Hydrophobic Effect (ปรากฏการณ์น้ำไม่เกาะบนพื้นผิว) แบบหยดน้ำกลม สูงสุด
ทำให้คราบใคลต่างๆถูกชะล้างออกโดยง่าย จึงส่งผลดีอย่างชัดเจน ต่อการปกป้องการซีดเหลืองของรถสีขาว
ขั้นตอนในการเคลือบน้ำยาเคลือบแก้ว CGC
STEP 1 : INITIAL CHECK UP
สำรวจสภาพผิวสีรถเดิมอย่างละเอียด โดยหลักเกณฑ์ ในการดำเนินการขึ้นอยู่กับสภาพผิวสีเดิมของรถ หากเป็นรถ ที่มีสภาพผิวสีที่ดีอยู่แล้ว สามารถเข้าสู่ขั้นตอนการเตรียมผิว สำหรับการ Coating ได้เลย
- โดยใช้เวลาโดยประมาณ 15 นาที
STEP 2 : DETAILED WASH
- โดยใช้เวลาโดยประมาณ 45 นาทีขึ้นไป
STEP 3 : DETAILED DRY & MASKING
- โดยใช้เวลาโดยประมาณ 45 นาที
STEP 4 : CUT-BUFFING - DECREASING
- โดยใช้เวลาโดยประมาณ 1 ชั่วโมงขึ้นไป
STEP 5 : CRYSTAL GLASS COATING
- โดยใช้เวลาโดยประมาณ 2 ชั่วโมงขึ้นไป
เคลือบแก้วมาตรฐาน ISO หนึ่งเดียวในไทย ที่ได้รับการรับรองถึง 2 ระบบ!
- มาตรฐานการบริหารงานคุณภาพ ISO 9001:2008
- มาตรฐานการบริหารงานคุณภาพ ISO 14001:2004
ข้อแตกต่างระหว่างเคลือบแก้วทั่วไป กับ เคลือบแก้ว CGC
ความมั่นคงของศูนย์บริการเป็นสิ่งสำคัญ
การทำเคลือบแก้ว เป็นการดูแลรถ แบบระยะยาว ความมั่นคงของศูนย์ บริการและพนักงานเป็นสิ่งสำคัญ CGC จึงให้ความสำคัญในส่วนศูนย์ บริการระดับพรีเมียมตลอดระยะ เวลา 10 ปี มากกว่า 30 สาขาทั่วประเทศ
CGC เน้นการเตรียมผิวก่อนเคลือบ
เป็นหัวใจหลักในการทำเคลือบแก้ว โดยช่างที่มีประสบการณ์การเตรียมผิว มากกว่า 10 ปี และผ่านการอบรมจาก CGC ทำให้มั่นใจได้ว่าผิวรถของท่านจะได้รับการ เตรียมผิว แบบเต็มประสิทธิภาพ ก่อนการลงเคลือบแก้ว
ผ่านการพิสูจน์มากกว่า 10 ปี
บนการใช้งานจริงในสภาพอากาศ เมืองไทยมากกว่าหลายหมื่นคัน จากศูนย์บริการ CGC ปลอดภัย และสามารถปกป้องรถยนต์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผลิตภัณฑ์ CGC ได้รับการรับรองคุณภาพ
ISO 9001:2008 14001 ตลอดการรับรองจาก มาตราฐานอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ผลิตภัณฑ์ CGC ไม่มีวางจำหน่ายในตลาดทั่วไป ให้บริการเฉพาะตัวแทน การให้บริการของ CGC เท่านั้น เพราะน้ำยา CGC มี คุณสมบัติพิเศษการเซตตัวเร็ว ต้องใช้ความชำนาญ ของช่างที่ผ่านการฝึกอบรมจาก CGC เท่านั้น
เน้นการบริการหลังการขายแบบ Pcs Recovery Coating
ซึ่งต่างจากการการดูแลเคลือบแก้วแบบทั่วไป เพราะ การทำ PCS recovery สามารถขจัดคราบลึก และรอยบนชั้นเคลือบแก้วได้เต็มประสิทธิภาพ ตลอดถึงการเพิ่มชั้นปกป้องผิวด้วย ผลิตภัณฑ์ CGC ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ ที่ใช้ใน ศูนย์บริการ CGC เท่านั้น ไม่มีการวางขายทั่วไป
FAQ
ความแตกต่างของชื่อเรียก 2 ตัวนี้คือ ส่วนผสมด้านเคมีที่แต่ละยี่ห้อนำใช้ตามสัดส่วนในการผสมเคมีเพื่อให้น้ำยาออกมาดีที่สุด ไม่ได้สื่อถึงผลลัพธ์ว่าสารตัวไหนจะดีกว่ากันแต่ผลลัพธ์ที่ดีเกิดจากหลายองค์ประกอบ ตั้งแต่การเตรียมผิว ประสบการณ์ ของช่าง เทคนิคการลงน้ำยา องค์ประกอบหลายๆอย่างจะทำให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด
และที่สำคัญที่สุด ผลิตภัณฑ์ต้องไม่มีปัญหาในระยะยาว หลังจากการเคลือบไปแล้วซึ่ง ไม่ใช่การดูเพียงผลงานแค่เพียง ไม่กี่เดือน แต่ต้องเป็นการสร้างความมั่นใจในส่วนนี้ ที่เกิดจากการใช้งานจริงเป็นเวลานานๆจนครบอายุของแพ็คเกจ สิ่งเหล่านี้คือ ผลิตภัณฑ์ที่ดี สบายใจทั้งลูกค้าและผู้ให้บริการ
ผลิตภัณฑ์ ส่วนใหญ่จะเป็นผลิตภัณฑ์ ที่ออกแบบมาสำหรับการตอบโจทย์ ลักษณะงาน แบบ DIY กับ ลักษณะงานแบบมืออาชีพ แน่นอนว่าผลลัพธ์ต้องออกมามีความแตกต่างกัน ตลอดถึงขั้นตอนการทำงาน ผลิตภัณฑ์สำหรับมืออาชีพ ย่อมมีความยากและซับซ้อนในการทำงานมากกว่า และผลลัพธ์ที่ออกมาก็ย่อมดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ในเรื่องความคงทน การมีประสิทธิภาพของการปกป้องรถ ตลอดถึงความเงางาม ในส่วนของการตอบโจทย์การดูแลรถ เป็นส่วนการตัดสินใจของลูกค้าว่าจะเลือกการดูแลรถแบบไหนในการดูแล ถ้าชอบความสะดวกสบาย ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพในการปกป้องรถของท่านมีคนดูหลังการขายตลอด ก็ต้องเลือกเข้าศูนย์บริการที่มีคุณภาพ
การต้นทุน Service ในแต่ละร้านไม่เท่ากัน ต้นทุนการดูแลลูกค้าสูง ก็ย่อมกำหนดราคาที่สูงกว่า ไม่ว่าจะเป็นการจ้างพนักงานแบบมืออาชีพไว้รอบริการลูกค้าการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ทดสอบจนมั่นใจ ความมั่นคงของศูนย์บริการหลังการขาย สิ่งเหล่านี้ทำให้ราคาการขายย่อมแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแต่ละศูนย์บริการ